การร้อยไหม คือ หัตถการที่จะร้อยไหมเข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อยกกระชับผิวหน้าให้เต่งตึงหรือเรียวสวยได้รูปมากขึ้น แม้ไม่ได้เป็นการผ่าตัด แต่ก็การร้อยไหมก็ทำให้เลือดออกใต้ผิวหนัง ดังนั้นจึงอาจมีผลข้างเคียงบางประการเกิดขึ้นได้เช่นกัน สำหรับใครที่สนใจจะดึงหน้าร้อยไหม มาลองทำความเข้าใจถึงปัญหาหรือผลข้างเคียงเหล่านี้ดู จะได้เตรียมความพร้อมได้ดียิ่งขึ้น

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นหลังดึงหน้าร้อยไหม

1.อาการบวมช้ำหลังร้อย จะเกิดขึ้นในช่วง 3-4 วันแรกหลังร้อย เป็นเรื่องปกติที่มักจะเกิดกับทุกคนที่ร้อยไหม ไม่เป็นอันตรายและไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดมากเกินพอดี หากรู้สึกปวดก็ทานยาบรรเทาอาการปวดตามแพทย์สั่ง โดยทั่วไปอาการจะดีขึ้นภายใน 5-7 วันและแทบจะหายสนิทใน 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามถ้าอาการปวดยังไม่ดีขึ้นหลัง 4 วัน ปวด บวม แดงมากขึ้นหรือมีไข้ร่วมด้วย ให้รีบกลับไปพบแพทย์ทันที

ดึงหน้าร้อยไหม

2.มีก้อนหลังร้อยไหม ในระยะแรกหลังร้อยไหมอาจจะคลำเจอก้อนได้ เพราะผิวหนังที่หย่อนคล้อยถูกดึงรั้งไปอยู่รวมกัน แต่อาการนี้สามารถหายเองได้ ดังนั้นไม่ต้องเป็นกังวลไป ที่สำคัญคือพยายามอย่าไปจับหรือนวดคลึงบริเวณที่ร้อยไหมบ่อยๆ เพราะอาจทำให้ไหมเคลื่อนที่ได้

3.ไหมขาด มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยแต่ก็เกิดขึ้นได้ สาเหตมาจากการแสดงสีหน้ามากเกินไป รวมไปถึงการอ้าปากหรือหาวปากกว้างด้วย ในช่วง 1 เดือนแรกหลังร้อยไหมหากขยับใบหน้ามากเกินไปอาจทำให้ไหมขาดได้ หรือถ้าไหมที่ร้อยไม่มีคุณภาพก็อาจจะขาดได้ง่ายเช่นเดียวกัน

4.หน้าเป็นคลื่น เกิดจากการดึงของเส้นไหม ทำให้บางครั้งผิวดูไม่เสมอกัน เมื่อไหมเริ่มเข้าที่ อาการนี้จะหายไปเอง ทั้งนี้หน้าเป็นคลื่นหลังร้อยไหมนั้นไม่ได้เกิดกับทุกคน ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่ผลข้างเคียงที่อันตรายอะไรและสามารถหายเองได้ เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องเป็นกังวลไป

ดึงหน้าร้อยไหม

โดยรวมแล้วปัญหาที่อาจเกิดขึ้นหลังดึงหน้าร้อยไหมทั้งหมดด้านบนไม่ใช่ปัญหาร้ายแรงอะไร ส่วนใหญ่สามารถหายเองได้หากมีการดูแลตัวเองอย่างถูกต้อง ส่วนไหมขาดก็ป้องกันได้โดยการไม่ขยับสีหน้าจนเกินไป ซึ่งจริงๆแล้วหากเลือกร้อยไหมกับสถาบันเสริมความงามที่มีมาตรฐาน ไหมมีคุณภาพดีและแพทย์มีความเชี่ยวชาญสูง คนไข้ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรเลย เพราะปลอดภัยแน่นอน อาจมีเพียงผลข้างเคียงเล็กๆน้อยๆที่ไม่เป็นอันตรายเท่านั้นเอง สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่กำลังอยากจะรับบริการดึงหน้าร้อยไหม ไหมแท้ๆ มีมาตรฐานคุณภาพ ผลลัพธ์ถูกใจต้องที่ เอยาคลินิกเท่านั้น