ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ตาม แทบจะทุกคนย่อมอยากให้รูปร่างและหน้าตาของตัวเองดูดีอยู่เสมอ ไม่ว่าจะอยู่วัยไหนโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกริ้วรอย ความหย่อนคล้อย รวมไปถึงปัญหาใต้ตาลึกและคล้ำที่ปรากฏบนใบหน้า สิ่งเหล่านี้ย่อมทำให้ไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง นอกจากการดูแลตนเองจากภายในคือรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หมั่นออกกำลังกายและมีสุขภาพจิตที่ดีแล้ว การดูแลตนเองจากภายในก็สำคัญเป็นอย่างมากไม่แพ้กันเลยล่ะ ด้วยเหตุนี้แล้วจึงมีหลายศาสตร์ความงาม ที่จะมาช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับรูปร่างและใบหน้า

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัญหาใต้ตาคล้ำ จึงทำให้หลายคนเกิดคำถามขึ้นมาว่า ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี เพราะปัจจุบันนี้มีคลินิกสถานเสริมความงามผุดขึ้นมาหลายแห่งเยอะมาก จนทำให้ลังเลว่าควรจะเข้าคอร์สฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ที่น่าเชื่อถือและมีความปลอดภัยอย่างแท้จริง  แต่ก่อนอื่นนั้นเรามาทำความรู้จักกันก่อนเถอะสำหรับสาวๆที่สนใจความงามด้านนี้ ว่าการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้น จะสามารถช่วยแก้ปัญหาในเรื่องอะไรได้บ้างนะ

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์

1.ช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นบริเวณถุงใต้ตา  เบ้าตาลึก รวมไปถึงริ้วรอยบริเวณรอบดวงตา ซึ่งฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปนี้จะช่วยแก้ไขปัญหาเบ้าตาลึก โดยจะเป็นการเติมเต็มให้บริเวณผิวที่มีปัญหามีความเต่งตึงมากยิ่งขึ้นไปด้วยนั่นเอง ริ้วรอยที่ดูลึกก็จะตื้นขึ้น มีความสดใสอ่อนเยาว์มากกว่าในทันทีที่ได้ฉีด นอกจากนี้แล้วยังเป็นการเสริมใบหน้าให้สวยงาม เสริมโหวงเฮงความงาม และทำให้ดูมีมิติมากกว่าเดิมอีกด้วย

2.การฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตา นอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาที่เกิดขึ้นแล้ว อีกด้านหนึ่งยังสามารถปรับโครงสร้างของใบหน้า ให้ได้รูปตามที่ต้องการโดยเฉพาะเทรนด์ปัจจุบันนี้ที่อยากให้ดวงตามีความสดใส การมีถุงใต้ตาเล็กๆแบบ Dolly eyes เหมือนสาวเกาหลีก็มาแรงเป็นอย่างมาก จึงถือว่าฟิลเลอร์มีดีทั้งช่วยแก้ปัญหาและช่วยเติมเต็มความสวยงามได้ประโยชน์หลายอย่างเลยทีเดียว

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี

3.ในการฉีดฟิลเลอร์ประเภท HA filler โดยมีการรับรองจากองค์การอาหารและยา สามารถการันตีได้เลยว่ามีความปลอดภัยสูงอย่างมาก เนื่องจากเป็นสารธรรมชาติที่สามารถย่อยสลายได้เอง ไม่ต้องกังวลเรื่องสารตกค้างบนใบหน้า อีกทั้งไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ง่ายอีกด้วย

4.ใครที่อยากสวยแบบเห็นผลทันที ได้ดวงตาที่สดใสเหมือนสาวแรกรุ่น ถือว่าตอบโจทย์ความต้องการในด้านนี้เป็นอย่างมาก เพราะเป็นหัตถการความงามที่หลังจากฉีดเข้าไปแล้วแทบจะเห็นผลในทันที ไม่ต้องพักฟื้นแต่อย่างใดรู้สึกได้ว่าใต้ตามีความสดใส เปล่งประกายชุ่มชื้น ไม่ดูแห้งเหี่ยว

การเลือกคลินิกที่ปลอดภัยเมื่อต้องฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี

อย่างที่ทราบกันดีว่าทุกวันนี้มีคลินิกสถานเสริมความงามให้บริการมากมายหลายที่ แต่ละคลินิกต่างมีกลยุทธ์ในการดึงดูดลูกค้า ซึ่งเชิญชวนให้เข้ามาเพิ่มความสวยกัน แต่ทั้งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นการโฆษณาเชิญชวน สำหรับผู้บริโภคทั้งหลายก็ต้องมีวิจารณาญาณก่อนสักนิดในการเลือกคลินิก ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี เพราะถ้าหากว่าไปฉีดในคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานแล้วละก็ นอกจากจะเสียเงินแล้ว ยังทำให้เสียใจตามมาอีกเพราะแทนที่จะได้ความสวยกลับมา แต่ดันได้ปัญหาเพิ่มขึ้นมาซะอีก ดังนั้นแล้วเราจึงมีเทคนิคการเลือกคลินิกที่ปลอดภัยมาฝากกัน เพื่อให้คุณสามารถฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างปลอดภัยนั่นเอง

1.คลินิกเปิดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ก่อนอื่นต้องสืบค้นข้อมูลของคลินิกนั้นๆให้ดีก่อนว่า มีการเปิดเป็นสถานความงามที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เพราะเป็นตัวกรองในขั้นหนึ่งให้ผู้บริโภคสามารถมั่นใจได้ว่า จะได้รับการดูแลและใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ปลอดภัยตรงตามมาตราฐานทางการแพทย์ เนื่องจากว่ามีบางคลินิกเถื่อนที่ให้บริการจนทำให้ผู้บริโภคเกิดความเสียหายทั้งทรัพย์สินและใบหน้า ดังนั้นแล้วหลักการสังเกตุและหาข้อมูลด้วยตัวเองง่ายๆเลยนั่นก็คือ คลินิกแห่งนั้นต้องมี เลขที่ใบอนุญาตคลินิก และต้องเป็นแพทย์เท่านั้นในการทำหัตถการ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี

2.แพทย์ต้องมีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์

ผิวหนังบริเวณใต้ดวงตาเป็นจุดที่ค่อนข้างมีความบอบบางเป็นพิเศษ ดังนั้นแล้วการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จึงควรทำหัตถการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ออกมาสามารถแก้ไขปัญหาใต้ตาที่มีอยู่ให้หมดไป และในทางกลับกันคือช่วยทำให้ดวงตามีความสวยงามมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะต้องเป็นแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพอย่างถูกต้อง มีความเชี่ยวชาญด้านการทำหัตถการความงาม ซึ่งสิ่งนี้สามารถสังเกตได้จากรีวิวรวมไปถึงการให้คำปรึกษาของแพทย์ด้วยว่ามีความใส่ใจมากแค่ไหน

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี

3.ฟิลเลอร์ที่นำมาใช้ต้องเป็นของแท้

ก่อนที่จะตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์เข้าร่างกาย ผู้บริโภคสามารถขอดูผลิตภัณฑ์ก่อนได้ เพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นใจว่ามีความปลอดภัยและมีคุณภาพจริง สำหรับสมัยนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือน่าอาย เพราะคลินิกส่วนใหญ่ก็ไม่ขัดข้องที่จะให้ผู้บริโภคได้เห็น ทั้งนี้การตรวจสอบคุณภาพของฟิลเลอร์ สามารถดูได้จากฉลากกล่องต้องมีเลข อย., มีเลข Lot ติดที่กล่องและสามารถโทรตรวจสอบจากบริษัทผู้จัดจำหน่ายได้

สิ่งที่ควรรู้เมื่อฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

1.การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่ต้องกังวลมีความกังวลใจเลยว่าจะเจ็บแต่อย่างใด เพราะปัจจุบันนี้มีเทคนิคการฉีดที่จะแปะยาชาให้ซึ่งจะช่วยลดความกังวลและอาการเจ็บไปได้มาก และหลังจากฉีดแล้วจะมีอาการบวมที่บริเวณใต้ตาประมาณ 2-3 วัน ทั้งนี้ไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด เพราะถือเป็นเรื่องปกติซึ่งร่างกายจะค่อยๆฟื้นฟูสภาพให้ดีขึ้น และจะพบกับผลลัพธ์ที่ดีภายใน 1-2 สัปดาห์

2.เพราะความสวยรอไม่ได้ สำหรับใครที่สนใจการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ถ้าอยากรู้ว่าจะเห็นได้เร็วแค่ไหนนั้น ขอบอกว่าต้องถูกใจอย่างแน่นอน เพราะสามารถเห็นผลทันทีหลังจากการฉีด และจะเริ่มเข้าที่มากยิ่งขึ้นหลังจากผ่านไปประมาณ 5 วัน เมื่อครบ 3 สัปดาห์แล้วจึงจะเห็นผลที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นว่าร่องลึกบริเวณใต้ตาดูตื้นขึ้น มีความอ่อนเยาว์มากกว่าเดิม

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี

3.การเลือกฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพทางการแพทย์ จะทำให้มั่นใจได้ว่าไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรง ทั้งนี้บางคนก็มีคำถามที่สงสัยว่า โดยปกติแล้วฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานแค่ไหน ซึ่งถ้าหากว่าเป็นฟิลเลอร์ที่มีมาตรฐาน ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา หรือ อย. ส่วนใหญ่แล้วจะมีประสิทธิภาพคงอยู่ได้นานถึง 6-18 เดือนกันเลยทีเดียว

4.ถ้าอยากให้ฉีดฟิลเลอร์ให้เห็นผลเร็ว ไม่จำเป็นที่จะต้องฉีดในปริมาณมาก ทั้งนี้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นผู้ประเมินเคสด้วยตนเอง เนื่องจากปัญหาบริเวณใต้ตาของแต่ละบุคคลย่อมไม่เหมือนกัน หากใครที่มีปัญหามากย่อมต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่มาก แต่โดยทั่วไปแล้วมักจะฉีดในประมาณ 1-2 CC ซึ่งมีความเหมาะสมมากที่สุด และสามารถเห็นผลลัพธ์เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้เช่นเดียวกัน

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี

เรียกได้ว่าเป็นข้อมูลที่อัดแน่นเลยทีเดียว เชื่อว่าจะต้องมีประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจอยากจะ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี อย่างแน่นอน  ซึ่งคลินิกสถานความงามแต่ละแห่งนั้น ต่างมีจุดเด่นที่แตกต่างกันในเรื่องของผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้และการให้บริการ อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญสุดสำหรับผู้บริโภคคือ ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในคลินิกที่เปิดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพียงเท่านี้คุณก็สามารถสวยได้อย่างปลอดภัยแล้วล่ะ และควรจะฉีดในปริมาณที่พอดีตามคำแนะนำของแพทย์  ไม่ควรที่จะฉีดในปริมาณเยอะจนเกินไป เพื่อให้ใต้ตาสวยแบบธรรมชาติ และไม่เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงอื่นๆตามมาด้วย